นักเขียนรู้สิ่งนี้ แล้วงานเขียนจะว้าว

ไหนใครยังไม่รู้จัก Core ยกมือขึ้น วันนี้แอดมินนำความรู้ในเรื่อง “Core” ที่ทางเราให้นิยามว่ามันคือ “ราก” หรือ “แกน” ของการสร้างเรื่องมาฝากทุกคนกันค่ะ หากนักเขียนรู้สิ่งนี้แล้วหล่ะก็

จะช่วยทำให้งานเขียนของทุกคนออกมาว้าว! อย่างแน่นอน มาลองอ่านความรู้ไปพร้อมๆ กับแอดมินกันได้เลยค่ะ

Premise

คือประโยคสมมุติ หรือประโยคไอเดียหลัก เป็นการตั้งเงื่อนไขที่น่าสนใจเห็นความน่าสนุก กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนดู (หรือเอาจริงๆของนายทุน) 90% ของหนังที่ผ่าน เริ่มต้นจากประโยคสั้นๆนี้ และสำคัญมากๆ มันเหมือนกับสัญญา สิ่งที่อยู่ในประโยคสั้นๆนี้มันต้องอยู่ในหนัง และมันต้องเป็นหัวใจของหนัง รูปแบบที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า จะเป็นยังไงนะ…ถ้า

เวลาหาส่วนนี้ตัวชี้วัดแอดมักจะเป็น สด.ง่าย.เกี่ยว.ทึ่ง คือสดหรือไม่ใหม่หรือเปล่า มันเล่าเรื่องที่ง่ายตามแนวทางของมันหรือไม่ เกี่ยวข้องกับคนดูของเรามั้ย มันมีความน่าทึ่งทั้งในมุมมองและมีแนวโน้มที่จะน่าทึ่งในการสร้างเรื่องหรือเปล่า

Theme

คือประเด็น แก่นเรื่อง ใจความ หรือ สิ่งที่เราอยากบอก อะไรก็ตามที่เป็นข้อความหลักที่เราอยากจะบอกคนดู ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดองค์ประกอบต่างๆของเรื่องที่เรากำลังจะสร้างต่อไป แต่สำคัญมากๆคือส่วนนี้ควรจะต้องมีทัศนะของเราอยู่ในนั้น เพราะเรากำลังจะบอกความเชื่อบางอย่างของเรา …จุดพลาดของมือใหม่คือ หาได้แต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่เขาเชื่อ ซึ่งเอาจริงๆข้อความนี้มันสำคัญมาก ยิ่งเราเชื่อหนักแน่นเท่าไหร่ องค์ประกอบในหนังของเราก็จะเป๋น้อยลงเท่านั้น หลายครั้งมันจึงเป็นประโยคที่มาก่อน Premise

แอดแบ่ง Theme ออกเป็นสองแบบคือ นำเสนอความดีงาม คือ Theme ทางสร้างสรรค์ กับ นำเสนอความจริง จะเป็น Theme ทางสะท้อน

Genre

คือแนวหนัง หากทำหนังตลาด เราต้องเห็นว่าหนังของเราจะคุยกับใคร แนวหนังคือคนดู และความสนใจ และรสนิยมของพวกเขา และในทางกลับกัน มันคือความสนใจ และรสนิยมของคนทำด้วย เห็นคนดูชัด เราก็จะหาทางที่จะคุยกับเขาได้ชัดเจนขึ้น หรือรู้ความต้องการของเราชัด เราจะได้หาเครื่องมือที่ถูกต้อง

หากเราช่ำชองแนวหนังที่เป็นที่นิยมของคนดูในช่วงเวลานั้น โอกาสที่จะทำงานแล้วเข้าถึงผู้คนก็มีสูง

โลกยุคหลังแล้ว Genre ไม่ใช่คำเดี่ยวๆ หรือมาเดี่ยวๆ อีกต่อไป มันมักจะเป็นแบบผสมผสาน Genre ทางอารมณ์ เข้ากับ Genre ทางกายภาพแบบต่างๆ เราจึงมักจะเจอ หนังวายที่เป็นระทึกขวัญเจือคอเมดี้ อะไรแบบนี้

Core ประกอบไปด้วย Premise, Theme, Genre ซึ่งส่วนประกอบ 3 อย่างนี้มีอะไรกันบ้าง

มันจะมาพร้อมๆ กันในช่วงขั้นตอนเริ่มต้นก่อนที่จะสร้างเรื่องอะไรซักอย่าง อันไหนมาก่อนก็ได้ แต่ต้องจบครบสามให้ชัดก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนสร้างเรื่องต่อไป

สรุปสั้นๆ

Premise คือ ความสนุก น่าสนใจ

Theme คือ สาระ แก่นสาร คุณค่า

Genre คือ คนดู และความสนใจ

Premise = How

Theme = What

Genre = Who

คนดูเป็นใคร เราจะบอกอะไรกับเขา และเราจะบอกผ่านไอเดียเรื่องอะไร

เราถึงบอกว่านี่คือการทำงานในจุดเริ่มต้นจริงๆ และมันเป็นส่วนที่เราเรียกว่าราก หรือแกนที่จะไปต่อ
เราจึงเรียกส่วนที่ว่า Core

[icon name=”user-edit” prefix=”fas”] บทความโดย เมษ ยิ้มสมบูรณ์

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *