4 รูปแบบเป้าหมายของตัวละครที่ว่ามันคือ 4 อย่างนี้ครับ
- Dramatic Need
- Goal
- Mission
- Target
เวลาเราไปบรรยาย หรือไปสอนเกี่ยวกับโครงสร้างเรื่อง หรือเกี่ยวกับตัวละคร นี่คือสิ่งนึงที่เรามักจะให้คนที่สร้างสรรค์งานต้องโฟกัส
จริงๆ แล้วการเล่าเรื่องในหนังมีสองขั้วหมวดที่จะทำให้เรื่องดำเนินไปข้างหน้า ซึ่งเราต้องให้ความสนใจกับมัน และมันจะต้องเกิดขึ้นกับตัวละครเอกเสมอ…มันคือ
“ปัญหา” และ “เป้าหมาย”
เรามักจะบอกเสมอว่า “เป้าหมาย” มีไว้เพื่อให้คนดูเอาใจช่วย ส่วน “ปัญหา” นั้นมีไว้เพื่อให้เรื่องเข้มข้น
ซึ่งสองอย่างนี้สำหรับเราสำคัญและต้องสนใจพอๆ กัน
แต่สำหรับโพสต์นี้ เราจะมาโฟกัสกันที่ “เป้าหมาย” กันก่อนนะครับ
.
เวลาเราดูงานหนังสั้นนักศึกษา หรือเวลาอ่าน หรือตรวจบทหรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่เราเจอคือเมื่ออ่านไปซักพัก เราเจอปัญหาของตัวละครเต็มไปหมด แต่เรากลับไม่เห็นเป้าหมายแฮะ บางทีเราไม่รู้ว่าตัวละครจะเอาอะไร ตัวละครจะไปไหน หรือตัวละครต้องการอะไร เราเลยมักจะถามคนเขียนเสมอว่า ตกลงแล้วตัวละครมันจะต้องทำอะไร หรือมันจะเอาอะไรกันแน่
.
ถ้าสิ่งนี้ไม่ชัด …คนดูก็จะไม่เอาใจช่วยตัวละคร ไม่ใช่ว่าคนดูไม่อยากจะเอาใจช่วยนะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเอาใจช่วยอะไรถ้าเราไม่รู้ว่าเป้าหมายของตัวละครคืออะไร
ที่ Story BOWL Society เราเลยแบ่งหมวดของอะไรก็ตามที่ดูคล้ายกับคำว่าเป้าหมายออกเป็น 4 แบบ มาดูกันไปทีละอันนะครับ
#Dramatic_Need
บางที่อาจจะเรียกว่า Super Objective นี่คือความต้องการสูงสุด ความปรารถนา หรือความใฝ่ฝันของตัวละคร ซึ่งใน ณ เวลาที่เรื่องดำเนินอยู่ มันจะยังเป็นแค่ความต้องการที่ดูเหมือนจะเกินเอื้อมของตัวละครของเรา เราเชื่อว่าทุกคนย่อมมีฝัน…
ตัวละครในหนังก็เช่นกันครับ ซึ่งความต้องการตรงนี้จะเป็นที่มาและเหตุผลลึกๆ ของตัวละครในการทำอะไรซักอย่างนึง สำหรับที่ Story BOWL Society เราจะให้โฟกัสกับคำง่ายๆ สามคำ คือ
- อยากได้
- อยากมี
- อยากเป็น
อยากได้อะไร อยากมีอะไร หรืออยากเป็นอะไรเป็นคำถามสำคัญ ในหนังทุกเรื่องที่เรารัก ส่วนนี้จะชัดเจนมาก เช่น “มาร์ตี้ แมคฟลาย” เขาอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน “โรส” ในหนังไททานิค อยากมีชีวิตที่มีอิสรภาพ “แฮร์รี่ พ็อตเตอร์” ในหนังภาคแรกอยากมีชีวิตในครอบครัวที่สมบูรณ์และกฏสำคัญคือ ความต้องการนี้ของตัวละคร จะไม่มีทางเปลี่ยนไปในตลอดที่เรื่องราวดำเนินไป และในตอนจบจะมีสามคำตอบ คือ ได้ ไม่ได้ หรือมีแนวโน้มไปทางที่จะได้มา
#Goal
ตรงๆ เลยก็คือเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม ซึ่งในหนังบันเทิงนี้จะเป็นเป้าหมายหนึ่งเดียวของตัวละคร ตัวละครต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม และมันต้องเป็นรูปธรรมเพียงพอที่คนดูจะเห็นชัดและเอาใจช่วยได้ เช่น
- มาร์ตี้ แมคฟลาย เป้าหมายของเขาคือกลับสู่อนาคตให้ได้
- เป้าหมายของโทนี่ สตาร์ค คือกำจัด ธานอส
- เป้าหมายของคนแข่งมาสเตอร์เชฟคือ ต้องการเป็นมาสเตอร์เชฟของซีซั่นนั้นให้ได้
อะไรแบบนี้ แต่ Goal ต่างจาก Dramatic Need ตรงที่ Goal สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ถ้ามองกันในเชิงโครงสร้าง หลังจากเรื่องราวหักเหที่ Turning Point หรือ Mid point แล้ว บางครั้งเป้าหมายตัวละครอาจจะเปลี่ยนไป อย่างในหนังสืบสวนสอบสวนระทึกขวัญ ตอนแรกเป้าหมายของตัวละครของเราอาจจะเป็นจับฆาตกรให้ได้ แต่พอกลางเรื่อง เมียและลูกของเขาถูกฆาตกรจับไป กลายเป็นเป้าหมายของเขาต้องกลายเป็น ต้องช่วยลูกเมีย อะไรแบบนี้ครับ แต่ในการเปลี่ยนแปลงนั้นมันต้องมีความสอดคล้องกันอยู่ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นหนังคนละม้วนกันนะ
#Mission
เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งเป้าหมายนั้น เขาต้องทำอะไรบ้าง มันคือวิธีการปฏิบัติหรือสิ่งที่ต้องทำ… ซึ่งมันจะกลายเป็นภารกิจย่อยๆ ซึ่งมันอาจจะตั้งภารกิจหลัก และตัวหลักล้มเหลว จะแก้มันก็แตกออกเป็นภารกิจย่อยๆ ขึ้นมา หรืออาจจะเป็นแบบสเต็ปของภารกิจ ต้องมีสิ่งนี้ถึงจะมีสิ่งนั้น อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ ถ้าเป็นใน Master chef Mission ของพวกเขาก็คือโจทย์ในแต่ละสัปดาห์นั่นแหละครับ
หนังจะสนุกหรือไม่ การดีไซน์ในส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่เว้นแม้แต่หนังดราม่านะ
สมมุติว่า
มีผู้ชายคนหนึ่งต้องการให้ครอบครัวมีความสุข เขาจึงต้องพยายามทำให้ลูกสาวยอมรับในตัวเขา โดยเริ่มต้นจากเขาจะจัดแคมป์ที่ให้ครอบครัวได้ไปเที่ยวป่าชิลๆ แล้วเปิดใจคุยกัน ระหว่างทางรถดันยางแตก แถวนั้นไม่มีใคร กลายเป็นต้องหาวิธีซ่อมยางที่แตกก่อน พอจะแยกกันออกไหมครับ ว่าอันไหนคือ Dramatic Need อันไหนคือ Goal และอันไหนคือ Mission
#Target
ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี เรียกว่าเป้าหมายสุดท้ายก็แล้วกัน อันนี้จะเกิดขึ้นเพราะมันจะทำให้เกิด Climax ของเรื่องราวครับ ว่ากันตามโครงสร้าง มันจะมาหลังจากที่ตัวละครค้นพบทางออกหลังจากช่วงตกต่ำของเขาแล้ว เขาอาจจะได้บทเรียนอะไรบางอย่าง หรือเขาอาจจะพบทางออก แต่เขารู้วิธีแล้วว่า เขาจะจัดการกับสิ่งที่เขาเผชิญอยู่อย่างไร ถ้าเป็นหนังผีก็คือรู้วิธีปราบผีแล้วล่ะ เมื่อรู้แล้วจะรออะไรล่ะ …ก็ลุยกันเลยสิครับ เขาชัดเจนแล้วว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร เหลือแค่ลงมือทำ และนี่จะทำให้เขาได้ลุกขึ้นเผชิญกับอุปสรรคหลัก เพื่อทำให้เขาบรรลุเป้าหมายของเขา
เมื่อเหล่ามนุษย์ใน ID4 ค้นพบแล้วว่าเขาต้องอัปโหลดไวรัสลงในยานแม่ ที่เหลือคือเขาจะต้องไปทำสิ่งนั้นล่ะ ซึ่งใน Target นี้ อาจจะมี Mission ย่อยๆ อีก เช่น
- ต้องเตรียมเกณฑ์คนฝูงบินรบ เพื่อไว้เผด็จศึกตอนยานลดเกราะ
2. ขึ้นไป upload ไวรัส
3. upload ไวรัสแล้ว ลดเกราะยานลูก
4. ฝูงบินระเบิดยานลูก
5. ยานมนุษย์ในยานแม่ วางระเบิดแล้วรีบหนีออกมา
6. จุดซิการ์ได้…เย้!!!
อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ
สิ่งที่พูดมาทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของวิธีการทำให้คนดูเอาใจช่วยตัวละครนะ เห็นมั้ยล่ะ ว่าหมวดนี้มันสำคัญ ชัดในบท มันจะชัดไปที่การกำกับ การดีไซน์ และการแสดง และคนดูก็จะรู้ชัด และรู้ว่าจะเชียร์อะไรกับตัวละครหลักของเราดี
บทความนี้ แอดคิดว่าหลายๆ คนน่าจะเอามาปรับใช้กับการสร้างตัวละครได้ในหลากหลายการทำงานค่ะ ทั้งบทภาพยนตร์ ละคร นิยาย การ์ตูน เกม ฯลฯ หากใครคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ฝากแชร์กันได้นะคะ แล้วครั้งหน้าแอดจะไปตามหาบทความที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านสนุกด้วย ได้ความรู้ด้วยมาอีกค่ะ