วันนี้คุณสนใจอยากเรียนเรื่องอะไร...

วิธีทำให้เรื่องที่เราเขียนสนุก

เพราะเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความบันเทิง

ส่วนใหญ่มักว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์

เคยสังเกตมั้ยว่า…เวลาดูหนัง หรืออ่านหนังสือเราเฝ้าดูใครคนหนึ่ง จะเป็นคนธรรมดาหรือไม่ก็ได้ แต่เขามักจะมีความฝัน เป้าหมาย ปัญหา ความขัดแย้ง เขาจะต้องทำเป้าหมายของเขาให้สำเร็จ และเราก็เอาใจช่วยเขา แต่สิ่งลึกๆ ที่คนเล่าเรื่องมักจะมีซ่อนไว้ในนั้นคือ “สร้างให้เขามีการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งเรามักจะเรียกมันว่าพัฒนาการ และเมื่อจบการดำเนินเรื่อง เขาจะมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป จากการที่เขาได้ออกไปคว้าเป้าหมายของเขา แก้ปัญหาของเขา เขาจะเกิดความขัดแย้ง ผิดพลาด เรียนรู้ และสุดท้าย เขาจะเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงของตัวละครทำให้ผู้คนต่างเอาใจช่วย รสชาติของเรื่องราวจึงเกิด

จะมองหาวิธีการที่ทำให้ตัวละครเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?

เรื่องเล่าทำหน้าที่แสดงให้ผู้คนเห็นการเริ่มต้นของตัวละครอย่างหนึ่ง ใส่อุปสรรคเพื่อให้เราเอาใจช่วย สุดท้ายทำให้เขาเกิดการเรียนรู้เพื่อที่จะทำให้เขามีพัฒนาการขึ้น มันเลยกลายเป็นเหมือนสูตรเบื้องต้นที่ง่ายที่สุดในการสร้างเรื่อง คือเล่าเรื่องความเปลี่ยนแปลงของคนจากจุดเริ่มเรื่องไปจนจุดจบของเรื่อง ตัวละครของเราจะไม่เหมือนเดิม จะมีอะไรที่เขาเปลี่ยนไป

ในการเริ่มต้นหัดสร้างเรื่อง เรามักให้เริ่มจากหาอะไรที่เปลี่ยนแปลงในตัวเขา เริ่มต้นจากการแก้นิสัยเสียก่อนก็ได้ ลองแบบง่ายๆ แบบด้านบวกก่อน เช่น

เห็นแก่ตัว ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ มีน้ำใจ

ไม่ฟังคนอื่น ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ รับฟังคนอื่น

กลัว ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ กล้า

อ่อนแอ ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ แข็งแรง

ใจร้อน ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ ใจเย็น

เริ่มจากอะไรประมาณนี้ หลักการเล็กๆ ที่เป็นทริกคือ “เขาจะแก้ปัญหา หรือคว้าเป้าหมายของเขาได้ หากเขาแก้นิสัยเสียของเขาได้ เพราะว่ามันคือตัวขัดขวางทางไปสู่ความสำเร็จ” แต่คนเราเปลี่ยนนิสัยเสียของตัวเองไม่ได้หรอก มันไม่เคยง่าย ไม่ต้องตัวละครก็ได้ เอาตัวเราเองยังทำยากเลย จริงมั้ยคะ

เรื่องราวจึงมักเริ่มจากการแนะนำตัวละครให้คนดูเห็นว่าเขามีข้อเสียอะไร บกพร่องอะไร หาเรื่องให้เขาตั้งเป้าหมาย ▶ เห็นวิธีการบรรลุเป้าหมาย ▶ ทำให้เขาผิดพลาดจากข้อเสียของเขา ▶ เขาเรียนรู้ ▶ เขาแก้ไขมัน ▶ เขาไปคว้าเป้าหมายอีกครั้ง …ครั้งนี้เขาทำสำเร็จ (แต่เราต้องทำให้มันไม่ง่ายนะ แพ้ก่อนอีกซักรอบเพื่อย้ำความตระหนัก) และในตอนจบ เขาได้พบว่าเขาเปลี่ยนไป คว้าเป้าหมายได้สำเร็จ และได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญ …เขาเกิดใหม่แล้ว …และคนติดตามเรื่องก็ได้เรียนรู้กับเขาไปด้วยพร้อมๆ กัน

อาจจะฟังดูน่าเบื่อ เพราะเรื่องไหนๆ ก็เล่าสิ่งเหล่านี้ …ก็จริงนะ… แต่เชื่อมั้ยว่ามันคงยังเป็นรูปแบบที่ได้ผลเสมอ เพราะสิ่งที่คนดูจะได้เห็นคือการเดินทาง ซึ่งแต่ละตัวละครมันจะไม่เหมือนกันเลย รายละเอียดต่างกันออกไป เอาจริงๆ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริงทุกคน มักผ่านกระบวนการนี้มาแล้วทั้งนั้น… เราจึงหยิบมาเป็นแบบฝึกหัดเบื้องต้นสำหรับคนที่เริ่มหัดเล่าเรื่อง …ให้เล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของคนก่อน

แต่เอาจริงๆ เรื่องราวของความเปลี่ยนแปลงมีหลายรูปแบบ เราเคยเห็นเรื่องที่ตัวละครไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยจนจบหรือไม่ …แน่นอน น่าจะต้องมีผ่านตามาบ้าง

“ตัวละครไม่เปลี่ยน แต่คนรอบตัวเปลี่ยน”

ตัวละครหลักเราได้เปลี่ยนความคิดของคนรอบข้าง แต่กว่าจะเปลี่ยนได้ต้องใช้ความพยายามกันเยอะหน่อย มันต้องไม่ง่าย หรือ “ตัวละครไม่เปลี่ยน แต่โลกเปลี่ยน” อันนี้เขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้เลย ซึ่งหนังทางฮีโร่มักจะเป็นทางนี้ โลกที่ไม่สงบสุข ▶ โลกที่สงบสุข …แต่ แต่ แต่ ถึงเขาจะไม่เปลี่ยน แต่เขาควรได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง

“ตัวละครเปลี่ยนหรือไม่แล้วแต่เรื่อง…

แต่ตัวละครควรได้เรียนรู้อะไรซักอย่างจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด

เพราะคนดูก็เรียนรู้ผ่านตัวละคร”

แล้วมันมีวิธีอื่นอีกมั้ยนะ?

…มีสิ

มีแบบตัวละครยังไม่เปลี่ยนในเรื่องราว แต่การเรียนรู้ของเขาทำให้เขา “ตาสว่าง” คือเขาได้หลุดจากหมอกมืดมัวที่บังตาของเขาแล้ว ก่อนหน้านี้มีอะไรบางอย่างทำให้เขาหลงไป แต่สุดท้ายเขาได้เห็นในความเป็นจริงแล้ว เขาได้ตระหนักอะไรบางอย่าง แล้วก็ อ๋อ….

แต่หลายครั้งเรื่องในกลุ่มนี้มักจะบอกว่าเมื่อเขาตาสว่างแล้ว แต่เขาก็ต้องรับบทเรียนของสิ่งที่เขาทำไป ถ้าตลอดเรื่องเขาทำเรื่องแย่มากๆ ในตอนท้ายหลังจากเรียนรู้แล้ว ตาสว่างแล้ว …แต่เขาก็ต้องใช้กรรมของเขาอยู่ดี

อ่านมาถึงตรงนี้เหมือนว่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องโลกสวยเนอะ …จาก – ไปเป็น + ตลอดเลย มันจำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นมั้ย… ..คำตอบคือ ไม่จำเป็นเลย หัวใจว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง เรากลับข้างทั้งหมดก็ได้ หากหลักความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทำให้หนังดูเป็นเรื่องราวสร้างสรรค์สังคม

การเกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงลบก็เหมือนจะทำให้เรื่องราวของเราดูมีความเป็น เรื่องสะท้อนสังคม

มีน้ำใจ ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ เห็นแก่ตัว

รับฟังคนอื่น ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ ไม่ฟังคนอื่น

กล้า ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ กลัว

แข็งแรง ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ อ่อนแอ

ใจเย็น ▶เปลี่ยนแปลงเป็น▶ ใจร้อน

การเป็นคนดี ทำให้ชีวิตเขาแย่ งั้นก็อย่าเป็นคนดีมันเลยดีกว่า ดังนั้นเกิดขึ้นได้ทุกแบบเลย

เริ่มต้น “มืด” จบ “สว่าง”

เริ่มต้น “สว่าง” จบ “มืด”

เริ่มต้น “มืด” ไป “มืดกว่า”

หรือตาสว่าง…

อย่างนี้เรียกว่าตัวละครมีความเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเริ่มต้น “สว่าง” จบ “สว่าง” เริ่มต้น “มืด” จบ “มืด” ในเชิงตัวละครนี่เรียกว่าแบน แต่ในเรื่องราวก็ต้องดูว่า งั้นเขาสร้างความเปลี่ยนแปลงกับโลก หรือคนอื่นๆ รอบตัวเขาได้หรือไม่

แต่อย่าลืมว่าไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นแบบไหน ตัวละครของเราต้องมีการเรียนรู้อะไรซักอย่าง และควรจะเป็นการเรียนรู้ทางจิตวิญญาณ ไม่ใช่การเรียนรู้ทางกายภาพ หรือทักษะวิชาชีพ

สรุปความเลยก็คือ… ความเปลี่ยนแปลง และการเรียนรู้

คือสิ่งสำคัญในเรื่องราวของเรานั่นเอง

สร้างเรื่องคราวหน้า ลองโฟกัสไปที่เรื่องเหล่านี้ดู

  • บทความโดย พี่เมษ ยิ้มสมบูรณ์
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า